Skip to main content

เรื่องเล่าจากห้องนอนแม่

หม่าม้าเป็นคนกวางตุ้งที่เกิดในเมืองไทย แต่คุณตาคุณยาย(ผ่อผ้อ) มาจากกวางโจว เราจึงยังมีญาติอยู่ที่ฮ่องกงและกวางโจวให้ไปมาหาสู่ วันนี้เราคิดถึงหม่าม้าเพราะเราเพิ่งถึงบางอ้อหลังจากท้าท้ายโชคชะตามากว่าค่อนชีวิต และศึกษาทั้งปรัชญาชีวิตและศาสตร์การอ่านโชคชะตามาตลอด 30 ปี ว่าที่คนปัจจุบันเรียก slow life แล้วพยายามแปลเข้าข้างตนเองเป็นการทำอะไรช้าๆเข้าขั้นความเกียจคร้านนั้น ที่แท้หม่าม้าของเราพยายามที่จะสอนเราด้วยวิถีความเชื่อและสัญชาตญาณของท่านมาตั้งแต่เกิดแล้วในเรื่องนี้ ที่หมายถึงให้อ่านสัญญาณจักรวาลแล้วใช้ชีวิตให้สอดคล้อง อย่าไปถือดีเอาชนะอย่างโง่ๆ Lesson Learnt


หม่าม้าเป็นคนใช้สัญชาตญาณมากกว่าเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ทำให้คำสอนของท่านไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับนักวิทยาศาสตร์อย่างเราเท่าไหร่ แต่อย่างที่ฝรั่งว่า Old and Wise ยิ่งแก่ยิ่งฉลาดนั้นเห็นจะจริง ถ้าเราดูหนังเรื่อง Pocahontas เราก็จะเข้าใจเรื่องสัญญาณของธรรมชาติหรือจักรวาลที่หม่าม้าของเราสัมผัสได้ดีว่าการเป็นคนใช้สัญชาตญาณนั้นหมายความว่าอย่างไร

หม่าม้าเรียนหนังสือมาน้อย ไม่จบ ป3 ด้วยซ้ำไป เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 และสภาวะเศรษฐกิจครอบครัวที่ตกต่ำลง  แต่หม่าม้าเป็นคนเก่งโดยเฉพาะเรื่องตัวเลข คำนวณได้แม่นยำและเร็วมาก และมีความจำเป็นเลิศ เถ้าแก่แถวสำเพ็งเกรงใจหม่าม้าทุกคนเวลาหม่าม้าไปตามเก็บเงิน แต่ทุกคนรักหม่าม้าเพราะหม่าม้าสามารถใช้ความสามารถทางด้านสัญชาตญาณและความรู้ทางนรลักษณ์จีนมาทำนายทายทักช่วยเหลือบรรดาเถ้าแก่เหล่านั้นในธุรกิจได้อยู่หลายครั้ง

ที่เล่ามายาวยืดเพราะมาค้นพบในที่สุดจากการศึกษาเรื่องโชคชะตาไม่ว่าจะศาสตร์จีน หรือฝรั่ง พบว่าเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับจังหวะของธรรมชาติของจักรวาลและตัวตนของเรา As above so below และอยากเอาความรู้ประสบการณ์ที่หม่าม้าสั่งสอนไว้มาแบ่งปันให้คนที่สนใจศาสตร์การทำนายโชคชะตาได้เข้าใจลึกซึ้ง อ่านไปเรื่อยๆจะได้ความรู้เรื่องการทำนายโชคชะตาที่เป็นประโยชน์ในการนำไปใช้พัฒนาชีวิตได้จริง

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นนั่นแหละ หนังเรื่อง Pocahontas เป็นการสอนเราเรื่องสัญชาตญาณที่ดีทีเดียว เพราะถ้าเราอ่านสัญญาณของธรรมชาติได้ และดำเนินชีวิตให้เกิดความสอดคล้อง เราจะได้รับผลดีเป็นเท่าทวีคูณทีเดียว ตามหลัก synchronicity ของ Carl Gustav Jung

กลับมาที่หม่าม้า หม่าม้าจะมีความเชื่อยาวเป็นหางว่าว ห้ามโน่นนี่นั่น ถือเรื่องต่างๆมากมาย แต่ไม่มีเหตุผลอธิบาย เราก้อแลยดื้อ ไม่เชื่อ ท้าพิสูจน์มาเรื่อย มาวันนี้เราเพิ่งเห็นด้วยอย่างมากและทึ่งในสัญชาตญาณที่แม่นยำของหม่าม้า ที่เราอยากเอามาเล่าในบทความนี้ เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานเป็นข้อมูลในการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น ไม่ผจญภัยเกินจำเป็นเหมือนเรา

เราปรารถนาที่จะให้เรื่องเล่าจากห้องนอนแม่เป็นการนำความรู้จากปราชญ์รุ่นแม่ผ่านประสบการณ์ส่วนตัวไปใช้ยังรุ่นต่อไปที่ได้ถือโอกาสเอาปรัชญาทางศาสนาผนวกเข้าไปในประสบการณ์นั้นด้วยกันเพื่อเป็นรากฐานของการทำนายโชคชะตาที่นำไปใชิพัฒนาชีวิตได้จริง

Comments